คุณจะดูแลสุขภาพที่เกี่ยวโยงกับความเป็นเพศหญิงของตนเองได้อย่างไร?
ผลการวิจัยส่วนใหญ่ ชี้ว่าการรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ (ผลไม้ ผัก ธัญพืช ฯลฯ) จะส่งผลดีต่อสุขภาพมากกว่าการพึ่งพาวิตามิน แร่ธาตุ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่าง ๆ อย่างไรก็ตามในบางกรณีที่อาหารโภชนาการที่ได้อาจไม่ถูกต้องหรือเพียงพอผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะสามารถช่วยชดเชยการขาดแคลนสารอาหารได้
อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลาหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา ได้มีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มี วิตามินหรือแร่ธาตุออกมาขายอย่างแพร่หลาย “แคลเซียม” ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับความแข็งแรงของกระดูก เป็นหนึ่งในนั้น สถาบันการแพทย์ (Institute of Medicine) ได้แนะนำปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวันสำหรับเด็กและผู้ใหญ่และสำหรับผู้หญิงที่มีอายุมากว่า 53 ปี ให้รับประทานแคลเซียม 1200 มิลลิกรัมต่อวัน นักวิจัยหลายคนได้อ้างอิงถึงหลักฐานที่มีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ว่า “วิตามินดี” สามารถส่งเสริมให้มีสุขภาพที่ดี การขาดวิตามินดี (เนื่องจากได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ) มีความเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพหลากหลายชนิด รวมถึงปวดข้อและอ่อนเพลีย วิตามินดียังช่วยในการดูดซึมแคลเซียม
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มี ”วิตามินดี 3” ซึ่งเป็นรูปแบบของวิตามินดีที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายที่สุด นอกจากนั้นยังแนะนำให้สตรีวัยเจริญพันธุ์รับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มี กรดโฟลิค (วิตามินบีชนิดหนึ่ง) และ โคลีน (พบตามธรรมชาติในไข่ ตับ ไก่ ผัก ธัญพืช) เพื่อป้องกันความพิการของทารกแรกเกิด ส่วนการรับประทาน ”ธาตุเหล็ก” ซึ่งทำหน้าที่ขนส่งก๊าซออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ในร่างกาย ก็เพื่อชดเชยการสูญเสียแร่ธาตุนี้ไปในระหว่างการมีประจำเดือนที่มีเลือดออกมาก
การจัดการกับอาการของวัยหมดประจำเดือน และกลุ่มอาการก่อนหมดประจำเดือนทำให้เกิดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจำนวนมากซึ่งมุ่งแก้ปัญหา การมีประจำเดือนที่ไม่มาสม่ำเสมอ อาการร้อนซู่ซ่าทันทีทันใด มักเกิดตามใบหน้า คอและอก อาจมีผิวแดง และมีเหงื่อไหลย้อย อารมณ์แปรปรวน นอนไม่หลับ และอาการอื่นๆ แต่มีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพียงไม่กื่ตัวที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์หรือทางคลินิกสนับสนุน “แบลกโคฮอส” พืชชนิดหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ครั้งแรกโดยชนเผ่าอินเดียแดงในทวีปอเมริกาเหนือ และ “ไอโซฟลาวิน” จากถั่วเหลือง (ทำจากถั่วเหลือง) เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพียง 2 ชนิดที่มีการศึกษาวิจัยเป็นอย่างดี และพบว่ามีประโยชน์บางอย่างในการลดอาการของวัยหมดประจำเดือน
และกลุ่มอาการก่อนหมดประจำเดือน “แบลกโคฮอส” ซึ่งมีสารเคมีจากพืชที่มีผลแรง ได้รับการอนุมัติในประเทศเยอรมนีให้ใช้เป็นตัวเลือกของยาที่ต้องมีใบสั่งแพทย์ และมีการใช้อย่างแพร่หลายในประเทศสหรัฐอเมริกา และให้ใช้ในประเทศในยุโรปอื่น ๆ อีกหลายประเทศเป็นยาที่ไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ ร่างกายเปลี่ยนไอโซฟลาวินจากถั่วเหลืองไปเป็นไฟโตเอสโตรเจน (เป็นเอสโตรเจนที่มีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนในร่างกาย) และมีการใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างแพร่หลาย
*กรุณาปรึกษาแพทย์ของท่าน หากท่านต้องรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
